รกฺเขยฺย อตฺตโน สาธุํ ลวณ๋ โลณตํ ยถา
พึงรักษาความดีของตนไว้ ดุจเกลือรักษาความเค็ม
ประวัติโรงเรียนชิโนรสวิทยาลัย
โรงเรียนได้ถือเอาวันที่ ๑๑ ธันวาคม ซึ่งเป็นวันประสูติของสมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระปรมานุชิตชิโนรสเป็นวันเกิดของโรงเรียน มีพิธีสักการะและทำบุญทุกปี
ประวัติโรงเรียนชิโนรสวิทยาลัย
โรงเรียนชิโนรสวิทยาลัยชื่อเดิมคือ โรงเรียนวัดชิโนรส ตั้งอยู่ในวัดชิโนรสารามวรวิหารซึ่งสมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระปรมานุชิตชิโนรสทรงสร้างชึ้นในราวปี พ.ศ.๒๔๓๘ (ขณะนั้นสมเด็จพระมหาสมณ เจ้ากรมพระปรมานุชิตชิโนรส สิ้นพระชนม์แล้ว พระองค์ประสูติเมื่อวันที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๓๓๓ สิ้นพระชนม์ วันที่ ธันวาคม ๒๓๙๖ ) ปี พ.ศ.๒๔๔๔ เริ่มจัดการระบบการศึกษาแบบสามัญอย่างเป็นทางการ โดยกระทรวงธรรมการได้แต่งตั้งให้ราชบุรุษฉายวงศ์ทวีป ซึ่งลาสิกขาออกจากพระภิกษุมาเป็นครูใหญ่คนแรก มีนักเรียน ๑๐๑ คน ครู ๓ คน พ.ศ. ๒๔๕๐ คุณนายแม้น อัคนิบุตร ได้สร้างอาคารขึ้นในบริเวณริมคลองมอญ ให้เป็นที่สอนพระปริยัติธรรมของวัดชิโนรสารามและต่อมาได้มอบให้กระทรวงธรรมการดำเนินการจัดการเรียนการสอนจนได้รับการยกระดับจากการสอนมูลศึกษาประโยคหนึ่ง ประโยคสอง เป็นระดับ ชั้นประถมศึกษา
พ.ศ. ๒๔๘๒
ได้รับงบประมาณสร้างอาคารเรียนใหม่ขึ้นในบริเวณที่ดินราชพัสดุติดกับวัดชิโนรสาราม โรงเรียนจึง มีอาคารใหม่ขึ้นในบริเวณที่ดินราชพัสดุติดกับวัดชิโนรสารามโรงเรียนจึงมีอาคารเรียนแบ่งเป็นบริเวณ
พ.ศ. ๒๔๘๘
ได้เปิดสอนถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖
พ.ศ. ๒๔๙๖
ได้แยกออกเป็น ๒ โรงเรียน นักเรียนหญิงเรียนที่บริเวณริมคลองมอญ ชื่อว่าโรงเรียนสตรีชิโนรส นักเรียนชายเรียนที่บริเวณที่ราชพัสดุชื่อว่า โรงเรียนวัดชิโนรส
พ.ศ. ๒๕๑๓
ได้งบประมาณสร้างอาคาร ๑ ขึ้น (ปัจจุบันเป็นอาคาร ๕ ชื่ออาคารสุวัณณรังสี) เป็นเงิน ๒,๓๗๐,๐๐๐ บาท และได้รวมโรงเรียนสตรีและโรงเรียนชายเป็นโรงเรียนเดียวกันชื่อว่าโรงเรียนวัดชิโนรส เปิดรับนักเรียนสายวิทยาศาสตร์และสายศิลป์
พ.ศ. ๒๕๑๕
ได้เปิดรับนักเรียนตาบอดเข้าเรียนร่วมกับนักเรียนปกติและได้ดำเนินการสอนต่อมาจนถึงปัจจุบัน
พ.ศ. ๒๕๒๐
ได้งบประมาณก่อสร้างอาคาร ๒ (ปัจจุบันชื่ออาคาร ศรีสุคตขัตติยวงศ์) ขนาด ๔ ชั้น ๑๘ ห้องเรียน เป็นเงิน ๓๗๓,๐๐๐๐ บาท
พ.ศ. ๒๕๒๑
รองศาสตราจารย์ ประเสริฐ ขลิบทอง ผู้อำนวยการโรงเรียนในขณะนั้นได้ร่วมกับศิษย์เก่าหาทุนก่อสร้างพระอนุสาวรีย์สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระปรมานุชิตชิโนรส โดยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ์ได้เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์มาทรงเททองหล่อพระรูปสมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระปรมานุชิตชิโนรส ในวันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๒๑ และเสด็จพระราชดำเนินมาทรงเปิดพระอนุสาวรีย์เมื่อ วันที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๒๑ ได้สร้างรั้วถาวรขึ้นรอบบริเวณโรงเรียนแทนรั้วสังกะสีพร้อมกับสร้างเสาธงขึ้นและได้เปลี่ยนชุดนักเรียนชาย จากกางเกงสีกากีเป็นสีดำ และเมื่อวันที่ ๒๙ ธันวาคม ๒๕๒๑ กรมสามัญศึกษากระทรวงศึกษาธิการอนุมัติให้เปลี่ยนชื่อเป็นโรงเรียนชิโนรสวิทยาลัย
พ.ศ. ๒๕๒๓
ได้งบประมาณการก่อสร้างอาคาร ๔ ชั้น ๑๘ ห้องเรียน ปัจจุบันชื่ออาคารอริยสมศีลาจารย์ แทนอาคารไม้เดิม
พ.ศ. ๒๕๒๖
ได้รับงบประมาณก่อสร้างอาคารเรียนแบบพิเศษ ๔ ชั้น ชื่ออาคาร ๓ แทนอาคารไม้เดิม
พ.ศ. ๒๕๒๘
รับนักเรียน AFS เข้าเรียน
พ.ศ. ๒๕๒๙
ปรับปรุงอาคาร ๖ ชั้นล่างเป็นห้องโสตฯและเป็นศูนย์บริการ มหาวิทยาลัยสุโขทัย
ธรรมาธิราช
ส่งวงโยธวาทิตเข้าแข่งชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทยได้รับรางวัลชนะเลิศบรรเลง เพลงไทยยอดเยี่ยมถ้วยพระราชทานของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี และชนะติดต่อกัน ๕ ปี
พ.ศ. ๒๕๓๐
เป็นศูนย์พัฒนาการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ (ERIC)
พ.ศ. ๒๕๓๔
โรงเรียนชิโนรสวิทยาลัยมีอายุครบ ๗๐ ปี เป็นสมัยที่โรงเรียนได้รับคัดเลือกจากกรมสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ให้เป็นโรงเรียนมัธยมดีเด่นขนาดใหญ่พิเศษ
พ.ศ. ๒๕๓๕
ได้รับงบประมาณสร้างอาคารอเนกประสงค์แทนโรงยิมเนเซี่ยม ซึ่งรื้อไป
พ.ศ. ๒๕๓๘
โรงเรียนได้ยกอาคารบริเวณริมน้ำคลองมอญคืนให้กับวัดชิโนรสาราม
พ.ศ. ๒๕๔๓
ได้ก่อสร้างอาคารศาลาวาสุกรี เป็นสำนักงานฝ่ายปกครองและเป็นพิพิธภัณฑ์สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระปรมานุชิตชิโนรส
พ.ศ. ๒๕๔๔
โรงเรียนได้ปรับอาคารอเนกประสงค์เป็นศูนย์คอมพิวเตอร์
พ.ศ. ๒๕๔๖
เปิดโครงการพิเศษภาคภาษาอังกฤษระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ และระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔
พ.ศ. ๒๕๕๑
เปิดห้องเรียนพิเศษ ๒ ห้องเรียน ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย คือ Intensive English Program เปิดโครงสร้างอังกฤษ-คณิต และ โครงการพัฒนาศักยภาพวิทย์-คณิต
พ.ศ. ๒๕๕๒
ปรับปรุงห้องเรียน Hi-Technoology จำนวน ๔ ห้อง เพิ่มห้อง Hi-Technology อีก ๖ ห้อง สร้างลานเอนกประสงค์หน้าอาคาร ๔
พ.ศ. ๒๕๕๓
พัฒนาห้องเรียนฟิสิกส์-เคมี ปรับปรุงระบบไฟฟ้าอาคาร ๕ เปลี่ยนเวทีกลางแจ้งเป็นศาลาเรือนไทย สร้างเรือนพักผู้ปกครองข้างสำนักงานกล่มบริหารงานบุคคล สร้างอาคารICT
สภาพปัจจุบัน
โรงเรียนมีพื้นที่ประมาณ ๑๓ ไร่ อาคารเรียน ๕ หลัง อาคารประกอบ ๔ หลัง
จำนวนห้องเรียน
ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ๑๐-๑๐-๑๐ รวม ๓๐ ห้อง
ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ๑๐-๑๐-๑๐ รวม ๓๐ ห้อ